"กรมปศุสัตว์ จับมือเดนมาร์ค ลงนาม MOU เพื่อสร้างเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านวิชาการโคนมระหว่างประเทศ"
?? ?? ??
การลงนามบันทึกความเข้าใจด้านวิชาการโคนมไทย - เดนมาร์ก มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านวิชาการโคนมระหว่างประเทศไทยกับราชอาณาจักรเดนมาร์ก โดยครอบคลุมเกี่ยวกับ
- การพัฒนาพันธุ์โคนมและเทคโนโลยีการเลี้ยงโคนม
- การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูลทางวิชาการ
- ระบบการรีดนมและการจัดการฟาร์มโคนม และ
- การจัดสวัสดิภาพสัตว์
สำหรับความสัมพันธ์ไทยและราชอาณาจักรเดนมาร์ก มีความเชื่อมโยงสืบต่อกันมายาวนานกว่า 400 ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2160 สมัยอยุธยาเป็นราชธานี โดยราชอาณาจักรเดนมาร์กถือเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการเลี้ยงโคนมเป็นอย่างมาก จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรเดนมาร์กด้านโคนม เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2505 ครั้งสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรดอริค ที่ 9 แห่งเดนมาร์ก และสมเด็จพระราชินีอิงกริดได้เสด็จเยือนประเทศไทย ในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิธ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชวงศ์ทั้งสองได้ร่วมเสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการฟาร์มโคนมไทย - เดนมาร์ก โดยพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ทรงเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามวางรากฐานโครงการร่วมทุน ซึ่งเป็นรากฐานการก่อตั้งอุตสาหกรรมโคนมในประเทศไทย
มากกว่า 60 ปี ความสัมพันธ์ด้านโคนมไทย – เดนมาร์ก ได้มีการพัฒนาทั้งเรื่องการปรับปรุงพันธุ์โคนม การฝึกอบรมเกษตรกร ในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการเกษตรและการผลิตน้ำนมของราชอาณาจักรเดนมาร์กมาสู่ประเทศไทย จากเดิมที่นมยังไม่เป็นที่รู้จักในฐานะสินค้าอุปโภคบริโภคจนมาเป็นที่นิยมเช่นในปัจจุบัน
บันทึกความเข้าใจดังกล่าวนอกจากเป็นการพัฒนาความร่วมมือด้านโคนมระหว่างไทย- เดนมาร์กแล้วยังเป็นการยืนยันว่าระยะทางไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีมายาวนานกว่า 400 ปี และจะพัฒนาด้านโคนมระหว่างกันสืบไป ซึ่งเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิธในการที่จะให้ประชาชนชาวไทยอยู่ดีกินดี